วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2552

สังเกตสัญญาณร้ายส่อโรคไต

โรคไต คือโรคไม่ติดต่อชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารรสเค็ม และอาหารที่มีไขมันสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะคนที่ชอบกินขนมขบเคี้ยว (อุดมไปด้วยเกลือ) และอาหารจังค์ฟู้ด (เต็มไปด้วยไขมันเลว) จะมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคไตเพิ่มขึ้น ซึ่งบางคนกว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว เพื่อเป็นการย้ำเตือนให้เห็นถึงอันตราย ของโรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค (แต่เกิดจากพฤติกรรมการกิน) ชนิดนี้ จึงขอนำข้อมูลในการสังเกต สัญญาณอันตรายของโรคไตมาฝาก

สังเกตอย่างไร ไตผิดปกติ

โดยทั่วไปร่างกายจะแสดงอาการผิดปกติออกมา ก็ต่อเมื่อไตทำงานหนักมากแล้ว ซึ่งกว่าจะรู้ตัวและหาทางรักษาอาจสายเกินไป และอาการต่อไปนี้ คือ สัญญาณอันตรายที่เป็นข้อบ่งชี้ว่า คุณอาจเป็นโรคไต

อาการปัสสาวะผิดปกติ

เนื่องจากกระเพาะปัสสาวะและไต ทำงานสัมพันธ์กัน เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้นที่ไต กระเพาะปัสสาวะจึงผิดปกติไปด้วย ซึ่งคุณหมอได้แนะวิธีสังเกตอาการผิดปกติของปัสสาวะไว้ดังนี้

ปัสสาวะขัด สำหรับผู้ที่มีอาการ ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะขัด เจ็บ ต้องออกแรงเบ่ง ปัสสาวะไม่พุ่ง หรือปัสสาวะสะดุดกลางคัน เหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่า อาจเกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ หรือเป็นนิ่วในไต ซึ่งมักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ โดยทั่วไป หากไม่ได้ดื่มน้ำก่อนเข้านอน เมื่อนอนหลับไปแล้ว 6 - 8 ชั่วโมง เรามักจะไม่ต้องตื่นขึ้นมาปัสสาวะกลางดึก ทั้งนี้เพราะกระเพาะปัสสาวะจะสามารถเก็บน้ำได้ถึง 250 ซี.ซี. แต่ในคนที่เป็นโรคไต ไตจะไม่สามารถหยุดการขับน้ำในกระเพาะปัสสาวะ ทำให้มีน้ำออกมามากและปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ จึงมักจะตื่นขึ้นมาปัสสาวะตอนกลางดึก
ปัสสาวะเป็นฟองมาก ปกติเวลาที่เราปัสสาวะ จะมีโปรตีนไหลปนออกมาด้วย ซึ่งโปรตีนนี่เอง ที่ทำให้เกิดฟองสีขาวๆ หากใครปัสสาวะแล้วมีฟองสีขาวเหมือนฟองสบู่ ออกมามากกว่าที่เคยเป็น นั่นอาจเป็นข้อบ่งชี้ว่า ไตของเราทำงานผิดปกติ เนื่องจากเส้นเลือดฝอยในไตเกิดการอักเสบ ซึ่งหากเกิดร่วมกับการปัสสาวะเป็นเลือด ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นโรคไต ควรไปพบแพทย์โดยด่วน
ปัสสาวะเป็นเลือด ปกติน้ำปัสสาวะของเราจะมีสีเหลืองใส หรืออาจจะมีสีเข้มขึ้นได้นิดหน่อยหากดื่มน้ำน้อย หรือจางลงได้เมื่อดื่มน้ำมาก แต่ถ้าหากปัสสาวะมีสีแดงคล้ายเลือดหรือสีน้ำล้างเนื้อ สีชาแก่ หรือสีเหลืองเข้ม นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่ามีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ โดยอาจจะเกิดจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ มีนิ่วในไต เป็นไตอักเสบ หรือมีเนื้องอกในทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น

อาการบวม

ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตส่วนใหญ่ มักจะมีอาการบวมตามที่ต่างๆ ของร่างกาย เช่น อาการบวมรอบดวงตา และที่บริเวณหน้า ซึ่งอาจสังเกตได้เวลาตื่นนอน หรืออาการบวมที่เท้า สังเกตได้ในตอนช่วงบ่ายของทุกวัน หรือเมื่อทำกิจกรรมที่ต้องยืนเป็นเวลานาน จะรู้สึกว่ารองเท้าที่สวมอยู่ดูคับขึ้น ทั้งนี้ หากใช้นิ้วกดไปตรงบริเวณที่บวม แล้วมีรอยบุ๋มลงไป ให้สันนิษฐานไว้เลยว่าเป็นโรคไต ควรไปพบแพทย์โดยด่วน

อาการปวด

พบ บ่อยในผู้ป่วยที่เป็นโรคไต ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดกระดูกและข้อ โดยจะมีลักษณะการปวด คือ รู้สึกปวดที่บั้นเอว หรือบริเวณชายโครงด้านหลัง และมักปวดร้าวไปถึงท้องน้อย ขาอ่อน หัวเหน่า และที่อวัยวะเพศ การปวดในบริเวณดังกล่าว อาจเกิดจากมีการอุดตันที่ท่อไต กรวยไตอักเสบ หรือในท่อไตมีถุงน้ำโป่งพอง

ความดันโลหิตสูง

เป็นอาการสำคัญอย่างหนึ่งที่บอกให้รู้ว่า คุณมีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคไตเรื้อรัง โดยเฉพาะคนที่ป่วยเป็นความดันโลหิตสูงมานาน และไม่สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในภาวะที่สมดุล จะยิ่งมีภาวะเสี่ยงมากกว่าปกติ โดยอาจจะเป็นโรคไตเรื้อรัง และโรคหลอดเลือดแดงในไตตีบได้

เมื่อสงสัยว่าเป็นโรคไต ทำยังไงดี

โรคชนิดนี้เกิดจากพฤติกรรมการกินเป็นสำคัญ ดังนั้น หากไม่อยากเป็นโรคไต ควรหันมาใส่ใจในเรื่องอาหารการกิน โดยพยายามงดอาหารที่มีรสเค็มจัด และอาหารที่มีไขมันสูงอย่างเด็ดขาด สำหรับผู้ที่สงสัยว่าตัวเองเป็นโรคไต หากมีอาการผิดปกติในข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น ไม่ควรนิ่งนอนใจให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพราะโรคไตบางชนิด เช่น นิ่วในไต กรวยไตอักเสบ รักษาได้ หากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 222

ไม่มีความคิดเห็น: