วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วิธีการปลูกและกินฟ้าทลายโจน จาก สถาบันแพทย์แผนไทย

โปรโมชั่น ครบ 1 ปี รับของแจกฟรี
http://kasidit-herbal.blogspot.com

ฟ้าทะลายโจร

ชื่อวิทยาศาสตร์ Andrographis paniculata (Burm. F)
Wall. ex Nees
ชื่อวงศ์ ACANTHACEAE
ชื่ออื่น ๆ ฟ้าทะลาย , น้ำลายพังพอน, หญ้ากันงู, สามสิบดี,
คีปังฮี,ซีปังกี, ชวนซินเหลียน, ชวงซิมไน้, Creat,
Green chireta,Kalmegh, King of bitters,
Kirayat
ส่วนที่ใช้ ส่วนเหนือดิน หรือ ใบ

การปลูก ทำได้หลายวิธีได้แก่
1. แบบหว่าน สิ้นเปลืองเมล็ด ให้ผลผลิตน้อย
2. แบบโรยเมล็ดเป็นแถว ประมาณ 50-100 เมล็ด ต่อ ความยาวร่อง
1 เมตร
3. แบบหยอดหลุม ระยะระหว่างต้น 20-30 ซม. ระหว่างแถว 40 ซม.
หยอดเมล็ดหลุมละ 5-10 เมล็ด
4. ปลูกโดยใช้กล้า ให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่าการปลูกโดย 3 วิธีแรก




ขายส่งแคปซูลฟ้าทะลายโจร 250มก.90บ.081-357-1859

ฟ้าทะลายโจรขนาด 250 มก. บรรจุกระปุกละ 100 แคปซูล1 กระปุก ราคากระปุกละ 130 บาท6 กระปุกขึ้นไป ราคากระปุกละ 120 บาทแต่ถ้าไม่เอากระปุ๊กขาย 100 แคปซูล 250 มก.
1 ซอง/ 95 บาท
60 ซอง/ 90 บาท
สนใจสอบถาม หรือสั่งซื้อได้ที่ กอล์ฟ โทร. 081-357-1859นอกจากนี้ทางร้านยังมีสินค้า อื่นๆ เช่น ชาใบมะรุม และ แคปซูลมะรุม น้ำมันมะรุม 350 บ. 40 Ml. อีกด้วยนะคะ
Emai: yatha22@hotmail.com

การเก็บเกี่ยว
ช่วงที่พืชออกดอกนับตั้งแต่เริ่มออกดอกจนถึงดอกบาน 50 %
เพื่อให้มีปริมาณสารสำคัญสูง ซึ่งพืชจะมีอายุประมาณ 110-150 วัน
การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว
การทำความสะอาด นำฟ้าทะลายโจรมาล้างน้ำให้สะอาดตัดให้มีความยาว
3-5 ซม. ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำมาเกลี่ยบนกระด้งหรือถาดที่สะอาด
การทำให้แห้ง อบที่อุณหภูมิ 50 C. ใน 8 ชั่วโมงแรก ต่อไปใช้อุณหภูมิ 40-50 C.
อบจนแห้งสนิท หรือตากแดดจนแห้งสนิท ควรคลุมภาชนะด้วยผ้าขาวบาง

สารสำคัญ
ส่วนเหนือดินฟ้าทะลายโจร มีสารสำคัญจำพวกไดเทอร์ปีนแลคโตน
(diterpene lactones) หลายชนิด ได้แก่ แอนโดรกราโฟไลด์ (andrographolide)
นีโอแอนโดกราโฟไลด์ (neoandrographolide) ดีออกซีแอนโดกราโฟไลด์
(deoxyandrographolide) ดีออกซีไดดีไฮโดรแอนโดรกราโฟไลด์
(deoxy-didehydroandrographolide)

วัตถุดิบฟ้าทะลายโจรที่ดีควรมีปริมาณแลคโตนรวมคำนวณเป็นแอนโดรกราโฟไลด์
ไม่ต่ำกว่า 6 %ไม่ควรเก็บวัตถุดิบไว้ใช้นาน ๆ เพราะปริมาณสารสำคัญจะ
ลดประมาณ 25 % เมื่อเก็บไว้ 1 ปีผลการศึกษาทางเภสัชวิทยา

การศึกษาในสัตว์ทดลองหรือในหลอดทดลอง พบว่า สารสกัดหรือสารสำคัญของ
ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ ทางยาหลายประการ ดังนี้
1. ฤทธิ์ลดการบีบหรือหดเกร็งตัวของทางเดินอาหาร
2. ฤทธิ์ลดอาการท้องเสีย
โดยทำให้การสูญเสียน้ำทางลำไส้จากสารพิษของแบคทีเรียลดลง
3. ฤทธิ์ลดไข้และต้านการอักเสบ
4. ฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
5. ฤทธิ์ป้องกันตับจากสารพิษหลายชนิด เช่น จากยาแก้ไข้พาราเซทตามอล หรือเหล้า
6. ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
7. ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด
ประสิทธิผลในการรักษาโรคจากรายงานการวิจัยทางคลินิก
1. รักษาอาการไข้เจ็บคอ (Pharyngotonsillitis)
ผู้ป่วยที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจรขนาด 6 กรัม/วัน หรือพาราเซทตามอล
3 กรัม / วัน
หายจากไข้ และอาการเจ็บคอได้มากกว่ากลุ่มที่ได้ฟ้าทะลายโจรขนาด 3 กรัม / วัน
อย่างมีนัยสำคัญในวันที่ 3 หลังรักษา แต่ผลการรักษาไม่มีความแตกต่างกันในวันที่ 7

2. การรักษาโรคอุจจาระร่วงและบิดแบคทีเรีย (Bacilliary dysentery) ผู้
ป่วยที่ได้รับฟ้าทะลายโจรทั้งขนาด 500 มิลลิกรัม ทุก 6 ชั่วโมง
และขนาด 1 กรัม
ทุก 12 ชั่วโมง เทียบกับยาเตตร้าซัยคลิน พบว่า สามารถสามารถลดจำนวนอุจจาระร่วง
(ทั้งความถี่และปริมาณ)
และจำนวนน้ำเกลือที่ให้ทดแทนในการรักษาโรคอุจจาระและบิดแบคทีเรีย
ได้อย่างน่าพอใจ ลดการสูญเสียน้ำได้มากกว่ากลุ่มที่ได้ยาเตตร้าชัยคลิน

3. การศึกษาประสิทธิผลในการบรรเทาอาการหวัด (Common cold)
ผลการทดลองให้ยาเม็ดสารสกัดฟ้าทะลายโจรที่ควบคุมให้มีปริมาณของแอนโดกราโฟไลด์
และดีออกซีแอนโดรกราไฟไลด์รวมกันไม่น้อยกว่า 5 มิลลิกรัม /เม็ด ครั้งละ 4
เม็ด วันละ 3 เวลา
ในผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด พบว่า วันที่ 2 หลังได้รับยา
ความรุนแรงของอาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ
เจ็บคอ น้ำมูกไหล
ในกลุ่มที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจรน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญและ
ในวันที่ 4 หลังได้รับยา ความรุนแรงของทุกอาการได้แก่ อาการไอ เสมหะ
น้ำมูกไหล ปวดศีรษะ
อ่อนเพลีย ปวดหู นอนไม่หลับ เจ็บคอ ในกลุ่มที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจร
น้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ

ข้อห้ามใช้ ห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรสำหรับแก้เจ็บคอในกรณีต่าง ๆ ต่อไปนี้
1. ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อ Streptococcus group A
2. ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบเนื่องจากเคยติดเชื้อ
Streptococcus group A
3. ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจรูห์มาติค
4. ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย
และมีอาการรุนแรง
เช่น มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น

ข้อควรระวัง
1. ฟ้าทะลายโจรอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเดิน ปวดเอว
หรือวิงเวียนศีรษะ ใจสั่น
ในผู้ป่วยบางราย หากมีอาการดังกล่าว ควรหยุดใช้ฟ้าทะลายโจร
2. หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้แขนขามีอาการชาหรืออ่อนแรง
3. หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วไม่หาย
หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ยา
ควรหยุดใช้ และไปพบแพทย์
4. สตรีมีครรภ์ไม่ควรใช้ฟ้าทะลายโจร
ขนาดที่ใช้และวิธีใช้
รับประทานครั้งละ 1,500 - 3,000 มิลลิกรัม ของผงยาวันละ 4 ครั้ง
หลังอาหาร 3 เวลา
และก่อนนอน (จำนวนเม็ดหรือแคปซูลที่รับประทานแต่ละครั้งให้ปรับตามขนาดของผงยาที่บรรจุในแต่ละเม็ด)

เอกสารอ้างอิง
1. คู่มือพืชสมุนไพรและเครื่องเทศ ชุดที่ 2
ยาจากพืชสมุนไพร.กลุ่มพืชสมุนไพรและเครื่องเทศ. 2543.
2. http://www.medplant.mahidol.ac.th/doae/014.htm.
3. มาตรฐานสมุนไพรไทยเล่มที่ 1 ฟ้าทะลายโจร
โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก กรุงเทพฯ. 2542.
4. WHO monographs of selected medicinal plants. Vol. 2. 2002. p. 12-24.
5. วารสารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 2540; 39(1) : 23-33.
6. Int.J. Crude Drug Res. 1990;28(4):273-283.
7. คู่มือสมุนไพรเพื่อการสาธารณสุขมูลฐาน. Text and Journal Corporation,
2533; กรุงเทพ, หน้า 38-39.
8. J Ethnopharmacol 1991; 33: 193-6.
9. เสาวภา ลิมป์พานิชกุล. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สหสาขาวิชาเภสัชวิทยา
บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 2532.95 หน้า
10. J Nat Prod 1993; 56:995-999.
11. Ind J Med Res 1990; 92:284-292.
12. Udomusksorn W. 1993. MS Thesis, Chulalongkorn University, Bangkok.
155 pages.
13. J Ethnopharmacol 1993; 40(2): 131-136.
14. Ind J Pharmacol 2000; 32: 288-293.
15. Proceeding of the 9th Annual Technical Meeting of the Department
of Medical Sciences.p.53.
16. Chiang Mai J Sci 2002; 29(1): 1-5.
17. Phytother Res 2001; 15:382-390.
18. Clin Exp Pharmacol Physiol 2000; 27(5-6): 358-363.
19. Acta Pharmacol Sin 2000; 21(12): 1157-1164.
20. J Med Assoc Thai 1991; 74(10): 433-442.
21. รามาธิบดีเวชสาร 2528: 8(2) : 57-61.
22. Phytomedicine 1999; 64: 217-223.

ไม่มีความคิดเห็น: