วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กาแฟ ลดความอ้วน ได้จริงหรือ

อย. เตือนอย่าเชื่อ "กาแฟลดอ้วน"


โดยปกติ ชา กาแฟ จะมีสารกาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ
ซึ่งสารตัวนี้จะออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจ
และระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้สมองที่เฉื่อยตื่นตัวมากขึ้น
สร้างความกระปรี้กระเปร่าช่วย
ให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย โดยขนาดปกติที่ได้รับไม่ควรเกิน 200
มิลลิกรัมต่อวัน เนื่องจากเ
ป็นขนาดที่แสดงฤทธิ์ทางยา ซึ่งหากรับเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มากเกินไป
จะส่งผลเสียให้เกิดอาการบางอย่าง เช่น กระวนกระวาย ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หงุดหงิดได้


ด้วยเหตุนี้ "กาแฟ" จึงแทบจะกลายเป็นอาหารหลักของผู้บริโภค โดยเฉพาะคนในวัยทำงาน
เนื่องด้วยสรรพคุณที่ช่วยให้กระปรี้กระเปร่า
หากแต่ก็มีนักโภชนาการหลายท่านที่กล่าวเตือนนักดื่มกาแฟ
ให้ระมัดระวังผลข้างเคียงเรื่อง "ความอ้วน" เพราะน้ำตาล และครีมเทียม


แถมบางครั้งยังพ่วงท้ายด้วย นมข้นหวานเสร้างรสชาติเข้มข้น หวานมัน
เหล่านี้เป็นตัวต้นเหตุ
ของวายร้ายที่มีชื่อว่า "ความอ้วน" เข้ามาสร้างความหวาดหวั่น
ให้กับผู้ดื่มกาแฟเป็นจำนวนมาก
จึงเป็นสาเหตุให้ ผู้ประกอบการหัวใส ต่างงัดกลยุทธ์โน้มน้าวใจ
อวดอ้างสรรพคุณ ว่าสามารถกำจัด
จุดอ่อนในข้อนี้ได้ทำให้เกิดกระแสนิยมบริโภค "กาแฟลดความอ้วน"


สรรพคุณ "กาแฟลดความอ้วน" เชื่อได้หรือไม่


นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาอ (อย.)
กล่าวว่าการโฆษณา "กาแฟกินแล้วผอม"
ดังกล่าวถือเป็นการกล่าวอ้างเกินจริง ซึ่งตามพระราชบัญญัติอาหาร
พ.ศ.2522 มาตรา 40
ห้ามมิให้ผู้ใด โฆษณาคุณประโยชน์คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ
หรือเป็นการหลอกลวง
ให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร


เนื่องจากกาแฟจัดเป็น "อาหาร" ไม่ใช่ "ยา"
จึงไม่มีสรรพคุณการบำบัดความอ้วนได้การโฆษณากล่าวอ้าง
ดังกล่าวจึงถือเป็นการลวงให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดในสรรพคุณอาหาร
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับ
ไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จึงขอเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวังผลิตภัณฑ์อาหารที่มีการกล่าวอ้างในทำนองนี้


เนื่องจากที่ผ่านมา อย. ตรวจพบว่า มีผู้ประกอบการบางรายลักลอบใส่สาร
"ไซบูทรามีน" ซึ่งเป็นยาลดความ
อ้วนลงไปในอาหาร
ซึ่งยานี้เป็นยาควบคุมพิเศษต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์และขายได้เฉพาะในสถานพยาบาล
เท่านั้นจึงอาจมีอันตรายต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือด
โรคหลอดเลือดสมองตีบ
โรคตับ โรคไต หญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร


ถึงแม้กาแฟจะมีส่วนต่อระบบการเผาผลาญของร่างกาย
แต่หากดื่มเป็นปริมาณมากโดยคาดหวังให้ ผอม รูปร่าง
อาจเกิดอันตรายได้ เพราะจะทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ
ทั้งยังไม่มีรายงานหรือผลการศึกษาวิจัยทาง
วิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือสนับสนุนว่าการบริโภคกาแฟสามารถควบคุมน้ำหนักได้


อวดอ้างว่าลดความอ้วน ผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อ


นอกจากเรื่อง "ลดความอ้วน" คงเคยได้ยินสรรพคุณขั้นเทพ
ที่หยิบยกกันมากกว่านั้น โดยเฉพาะผสมสารสกัด
สรรพคุณความงาม อาทิ ไฟเบอร์ คอลลาเจน แอลคาร์นิทีน โครเมียม ฯลฯ
ที่ต่างหยิบมาอวดอ้างสรรพคุณ
สร้างความน่าเชื่อถือไว้มากมาย ให้ผู้บริโภคยอมควักกระเป๋าจ่าย
แม้ราคาจะสูงกว่ากาแฟทั่วไปมากก็ตาม


ในส่วนนี้จากการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบว่า
สารสกัดต่างๆ เหล่านั้นเป็นส่วนผสม
เพียงเล็กน้อยและไม่มีข้อมูลทางวิชาการยืนยันว่ากาแฟที่ผสมส่วนผสมต่างๆ
เช่น ไฟเบอร์ คอลลาเจน
ทำให้ผู้บริโภคน้ำหนัดลดลงได้ มีผิวสวย หรือเพิ่มความงามแต่อย่างใด
จึงไม่อาจกล่าวอ้างเช่นนั้นได้


หุ่นดีได้ ด้วยตัวเรา เห็นผล 100%


ออกกำลังกายสม่ำเสมอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน วันละ 20 - 30 นาที และหยุดตามใจปาก
จนเป็นเรื่องคงจะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด การหวังพึ่งพาผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ไม่ใช่การแก้ไขที่ต้นเหตุปัญหา
ถึงแม้จะรับประทานผลิตภัณฑ์ที่อวดอ้างสรรพคุณลดความอ้วนต่างๆ เข้าไป
แต่ไม่ระวังในการ
รับประทานอาการและไม่พยายามเปลี่ยนแปลงนิสัยการบริโภคโอกาสที่รูปร่างจะกลับมาเหมือนเก่าอีกย่อมแน่นอน


สำหรับผู้ต้องการมีรูปร่างดี ผอม เพรียว
อย่างมีสุขภาพอย่าลืมรับประทานอาหารหลากหลายให้ครบ 5 หมู่
รับประทานให้ครบในปริมาณพอเหมาะรับรองช่วยได้
เพราะสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรลืมเลือน ใช่เพียง
"ผอม หุ่นดี" แต่ทุกอย่างต้องมีคำว่า "เพื่อสุขภาพที่ดี" พวงท้ายเสมอ


เชื่อเถอะว่า นอกจากจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จได้ชัยชนะพิชิตความอ้วนเด็ดขาดแล้วยังช่วยพิชิต
โรคภัยไข้เจ็บไม่ให้มากล้ากลาย
โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินหมดเปลืองไปกับสินค้าตัว
ช่วยที่ไม่สามารถรู้ได้เลยว่า "ช่วยได้จริงหรือไม่"


ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด



สมุนไพรอบตัว สูตรพิเศษ ลดความอ้วน ใช้ร่วมกับกระโจม สำหรับอบตัว คลิกเพื่อดูภาพกระโจม


จำนวน 12 ถุงเล็ก ใช้ได้ 3 ครั้ง ต่อ 1 ถุง ใช้ได้ 36 วัน
ราคา 250 บาท

วิธีใช้ สมุนไพร 1 ถุงเล็ก นำใส่ถุงผ้า ใช้ได้ 3 ครั้ง ต่อน้ำ 1 ลิตร อบตัวทุกวัน ๆ ละ 20 – 30 นาที แล้วแต่สภาพร่างกาย
ขณะอบตัวควรจิบน้ำอุ่นเป็นระยะ
ข้อห้าม สตรีมีครรภ์ และ ผู้มีไข้ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคลมบ้าหมู อ่อนเพลีย นอนน้อย กินอาหารอิ่มใหม่ ๆ
ตัวยาสมุนไพร
ไพล, วานนาคำ, ขมิ้นชัน, ข่าแดง, ข่า, ชุมเห็ดเทศ, ใบเตยหอม, ใบมะขาม, ใบส้มเสี้ยว, ใบส้มป่อย, ใบแจง, ใบพลับพลึง, พิมเสน, การบูร, ผิวส้มทั้ง 3, ใบมะนาว, ตะไคร้บ้าน, เถาเอ็นอ่อน และ ตัวยาอีก 20 ชนิดบดเป็นผงละเอียด
ผลิตโดย กลุ่มแม่บ้านและแพทย์แผนไทย ตำบลรำมะสัก จ. อ่างทอง
081-357-1859, http://kasidit-herbal.blogspot.com/, Email: yatha22@hotmail.com

ไม่มีความคิดเห็น: