วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552

มะเร็งคืออะไร


มะเร็ง เป็นเนื้องอกชนิดร้ายที่เนื้อมะเร็งมีการแทรกซึมเข้าไปในเนื้อเยื่อปรกติที่ อยู่โดยรอบ เป็นเซลล์ร่างกายที่มีการแบ่งตัวไม่เป็นไปตามแบบแผนอยู่นอกเหนืออำนาจการควบ คุม สามารถแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่นของร่างกายที่ห่างไกลออกไป และไม่ติดต่อกับก้อนมะเร็งเดิม มะเร็งสามารถเกิดจากเซลล์ทุกชนิดในร่างกาย ยกเว้น ขน ผม เล็บที่งอกออกมาแล้วเท่านั้น

การแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง มีได้ 4 วิธี คือ

1.
โดยทางกระแสเลือด (หลุดเข้ากระแสเลือด แล้วไปเจริญเติบโตในอวัยวะต่างๆ เช่น ปอด ตับ กระดูก สมอง เป็นต้น)
2.
กระแสน้ำเหลือง (หลุดเข้าหลอดน้ำเหลือง แล้วไปเจริญเติบโตในต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียง หรืออยู่ห่างไกลออกไป และสามารถแพร่กระจายเข้าสู่หลอดเลือดอีกทีหนึ่ง)
3.
การฝังตัวของเซลล์มะเร็ง (หลุดแล้ว ตกไปงอกตรงส่วนที่มีเซลล์มะเร็งตกอยู่)
4.
การแพร่กระจายแทรกตัวไปตามพื้นผิวภายในอวัยวะที่เป็นมะเร็งและอวัยวะหรือเนื้อเยื่อที่อยู่ข้างเคียง

สาเหตุการเกิดมะเร็ง

สาเหตุที่แท้จริงของโรคมะเร็ง ในปัจจุบันยังไม่สามารถบอกได้แน่ชัด แต่มีข้อมูลสนับสนุนว่า มาจากสาเหตุหลายๆอย่างร่วมกัน เช่น

1.
สาเหตุภายในร่างกายเอง (เชื้อชาติ, พันธุกรรม, เพศ, อายุ เป็นต้น)
2.
สาเหตุจากภายนอกร่างกาย (ทางกายภาพ - แสงอาทิตย์, นิ่ว, แผลจากไฟไหม้, น้ำร้อนลวก ; ทางเคมี-สารหนู, สีย้อมผ้า, บุหรี่ เป็นต้น)
3.
การอักเสบจากการติดเชื้อเรื้อรังนานๆ
4.
ฮอร์โมนที่มีผลต่อการเป็นมะเร็ง โดยจะพบค่าผิดปรกติ เมื่อเป็นโรคมะเร็ง

การดูแลตนเองให้พ้นจากมะเร็ง

หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดโรคมะเร็ง เช่น พฤติกรรมการรับประทานอาหารจำพวกดิบๆสุกๆ, มีไขมันสูง, ปิ้ง-ย่าง, ดองเค็ม, อาหารที่ถนอมด้วยเกลือไนเตรต-ไนไตรท์ หรืออาหารที่เก็บทิ้งไว้นานจนเชื้อราขึ้น นอกจากนี้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังมาจากการกินเหล้า สูบบุหรี่ หรือการตากแดดจัดเป็นเวลานานๆ ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ ดังนั้นจึงควรให้การดูแลสุขภาพอนามัยเป็นประจำสม่ำเสมอ รับประทานอาหารให้ถูกหลักอนามัยครบทั้งห้าหมู่ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ ข้าว ข้าวโพด เมล็ดธัญพืชอื่นๆ การออกกำลังกายเป็นประจำ ร่วมไปกับการดูแลน้ำหนักไม่ให้มากเกินไป และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค โดยพยายามทำจิตใจให้ เบิกบาน ไม่มีเรื่องเศร้าหมอง แต่เมื่อตรวจพบอาการผิดปรกติให้รีบมาปรึกษาแพทย์ทันที

แหล่งข้อมูล : www.ramaclinic.com

ไม่มีความคิดเห็น: