วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2552

collagen ใต้ผิวหนังคนเรา

คอลลาเจน (Collagen) เป็นภาษากรีก แปลว่า กาว ทำหน้า
ที่เป็นกาวเชื่อมเซลล์แต่ล่ะเซลล์เข้าด้วยกัน โดยคอลลาเจน จัดเป็น
หนึ่งในโปรตีนคุณภาพสูง และให้กรดอะมิโนครบถ้วน 20 ชนิด โดยจะ
มีสารสำคัญ 2 ชนิดที่เรียกว่า Proteoglycan และ Glycosaminoglycans
ซึ่ง เป็นสารที่จะกลายเป็นโครงสร้างหลักของผิวพรรณ เส้นผม เล็บ กระดูก
และข้อต่อหรือแม้แต่ผนังหลอดเลือด และมีอยู่ทั่วไปในร่างกาย มีประมาณ
ร้อยละ 6 ของน้ำหนักตัวหรือประมาณ 1/3 ของโปรตีนทั้งหมดที่มีในร่างกาย
คอ ลลาเจน มีหน้าที่ป้องกันอวัยวะภายในร่างกายและเชื่อมอวัยวะต่าง ๆ
ให้อยู่ด้วยกัน ในชั้นหนังแท้จะเป็นตัวช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้น นุ่มนวล รักษา
ความยืดหยุ่นของผิวให้เต่งตึงกระชับ ป้องกันผิวเหี่ยวย่นและรอยตีนกา

คอลลาเจน อยู่ในผิวหนังเราตรงไหน

โดยปกติผิวหนังคนเราแบ่งเป็น 3 ชั้น

1. ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็น ชั้นผิวหนังที่อยู่นอกสุดและสัมผัสกับ
สิ่งแวดล้อมโดยตรง ผิวชั้นหนังกำพร้าเกิดจากเซลล์ชั้นเดียวซึ่งแบ่งตัวหนา
ขึ้นเกิดเป็นเซลล์ผิว หนัง(Keratonocyte) และ Epidermal Appendages
(Adnexal Structures) เช่นขุมขน, ต่อมเหงื่อ,ต่อมไขมันเป็นต้น ชั้น
หนังกำพร้า เป็นส่วนที่อยู่ชั้นนอกสุด ทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้นให้กับพื้นผิว
ป้องกันเชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย รักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่
ชั้นนี้ประกอบด้วยเซลล์ผิวหนังที่มีการสร้าง และทดแทน ชั้นนอกสุดหลุด
เป็นขี้ไคลตลอดเวลา มีเซลล์สร้างสีผิวให้สีต่างๆ ของผิวช่วยป้องกันแสงแดด
และเซลล์ที่ทำหน้าที่ต่อต้านสารแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย

2. ชั้นหนังแท้ (Dermis) ชั้น หนังแท้ ในชั้นนี้จะมีเส้นใยต่างๆ ประสานกัน
ไปมาในเนื้อเยื่อ เพื่อเสริมความเต่งตึง และ แรงยืดหยุ่น ได้แก่ ส่วนที่เป็น
เส้นใยคือ collagen fibers, elastic fibers และ reticulum fibers ซึ่งเส้นใย
จะมีลักษณะละเอียดและอยู่กันแบบหลวมๆในชั้นบนที่อยู่ชิดกับชั้นหนังกำพร้า
เรียกว่าชั้น papillary dermisส่วนในชั้นลึกเส้นใยมีลักษณะหยาบกว่าและอยู่กัน
อย่างหนาแน่น เรียกว่าชั้น reticular dermis เส้นใยดังกล่าวจะวางตัวอยู่ในสาร
พื้นฐาน(Ground substance) ซึ่ง ประกอบด้วย acid mucopolysaccharide
พวก hyaluronic acid, chondroitin sulfate,dermatansulfate, neutral
mucopolysaccharides และ electrolytes
นอกจากนั้นในชั้นหนังแท้ยังมีเส้นเลือด ,กล้ามเนื้อ, เส้นประสาทและ
ปุ่มประสาทพิเศษที่รับความรู้สึกต่างๆ เช่น รับความรู้สึกสัมผัสความกดดัน
ความร้อน ความเย็น เป็นต้น

3. ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutis) ชั้นลึกลงมาจากชั้นหนังแท้จะเป็นชั้นไขมัน
ใต้ผิวหนังซึ่งจะแบ่งโดยผนังกั้นบางๆซึ่ง ประกอบด้วยเส้นใยcollagen และเส้นเลือด
ทำให้ไขมันมีลักษณะเป็นกลุ่มๆ (lobules) ชั้นนี้เป็นส่วนรอง รับผิวหนังให้คง
รูปร่างรับแรงกระแทก และสะสมพลังงานแก่ร่างกาย ชั้นไขมัน เป็นส่วนที่ทำหน้า
ที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ช่วยลดการกระทบกระแทก และเป็นแหล่งพลังงานยาม
ร่ายกายขาดแคลนพลังงานอีกด้วย

ผู้หญิงสมัยใหม่ ไม่มีใครไม่รู้จักคอลลาเจนที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้ผิวพรรณเต่งตึง
แต่เมื่ออายุที่มากขึ้น คอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวหนังก็ลดลงตามลำดับ การยิ้ม ขมวดคิ้ว หรี่ตา
หรือเครียด เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คอลลาเจนใต้ผิวเสื่อมสภาพ ผลที่ตามมาก็คือ ริ้วรอย
และรอยตีนกาบนใบหน้า

ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า ปัจจัย ที่ก่อให้เกิดการสลายตัวของคอลลาเจน คือ อนุมูลอิสระ
ที่เกิดจากแสงแดด มลพิษต่างๆ บุหรี่ สารปนเปื้อนในอาหารที่รับประทานเข้าไป และการ
เปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ส่งผลต่อผิวในชั้นหนังกำพร้า และชั้นหนังแท้
ที่ประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 2 ชนิด คือ คอลลาเจน และอีลาสติน ที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้
ผิวพรรณเต่งตึง มีความยืดหยุ่น และควบคุมความชุ่มชื้น เมื่อถูกทำลายให้บางลง และด้วยอายุ
ที่มากขึ้นทำให้เกิดความไม่สมดุลกันระหว่างการผลิต และการสลายตัวของคอลลาเจนตาม
ธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดริ้วรอย ผิวหน้าหย่อนคล้อย และหยาบกระด้าง ดังนั้น วิธีที่จะทำให้
ผิวพรรณกลับคืนสู่ความวัยเยาว์นั้น ก็คือการเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว

การเพิ่มคอลลาเจนก็มีหลากหลายวิธี ดังนี้

การเติมคอลลาเจน และอีลาสตินที่ขาดหายไปจากเซลล์ผิว ตามธรรมชาติแล้ว

คอ ลลาเจนและอีลาสติน จะเริ่มเสื่อมลงเมื่ออายุ 25-30 ปี ปัจจุบันมีการค้นคว้าเพื่อหา
แหล่งธรรมชาติที่จะช่วยเสริมคอลลาเจนที่ขาดหาย ไป เพราะผิวที่มีคอลลาเจนที่แข็งแรง
จะเป็นผิวที่เปล่งปลั่ง เนียนใส คอลลาเจน จึงเป็นหัวใจสำคัญที่คงความยืดหยุ่น และช่วยเก็บ
กักความชุ่มชื้นไว้ไม่สูญเสียไปกับสภาพแวดล้อม


การรับประทานอาหารที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ

สาร ต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากธรรมชาติ จะช่วยกำจัดตัวการสร้างอนุมูลอิสระได้หมดไป
และไม่ทำลายเซลล์ผิวหนัง ซึ่งได้แก่ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี สารเหล่านี้เป็นสารที่
มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อ
คอลลาเจนและอีลาสติน


การรักษาความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ผิว

การ สูญเสียความชุ่มชื้นของเซลล์ผิว ทำให้เกิดความหยาบกร้านและริ้วรอย การเลือกใช้
ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นชนิดพิเศษ ที่มีประสิทธิภาพมากกว่ามอยซ์เจอไรเซอร์ทั่วไป
จะสังเกตได้จากส่วนผสมที่ประกอบด้วย ไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน,ไฮโดรไลซ์ อีลาสติน,
โปรคอลลาเจน,เอเอชเอ เป็นต้น


สาว ใดที่คิดว่าผิวต้องการคอลลาเจนอย่างรีบด่วน ก็ลองนำเอาข้อมูลนี้ไปประกอบการพิจารณา ก่อนที่จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ตัวช่วยตามท้องตลาด เพื่อให้ผิวคืนสู่วัยเยาว์อย่างปลอดภัยไร้กังวล

ไม่มีความคิดเห็น: